พระพุทธรูปประจำพระราชวังพญาไท สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอุทิศแด่พระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่ หัวตามความดำริของพลตรี ปัญญา อยู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเเพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าในสมัยนั้น โดยใช้เงินที่เหลือจากงานอุปสมบทหมู่นักเรียนแพทย์ศาสตร์ทหารครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นส่วนหนึ่งของทุนเริ่มดำเนินการ และได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญขชา ข้าราชการ ผู้เจ็บป่วยและประชาชนทั่วไป มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบ
สมเด็จพระญูาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาปรินายก องค์พระอุปัชฌาย์และผู้ประทานแบบในการก่อสร้าง ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเททองหล่อองค์พระ ณ ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชวังพญาไท และได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระมหานาคชินะวร วรานุสรณ์มงกุฎราช”
พระพุทธรูปองค์นี้จำลองแบบมาจากพระมหานาคชินะ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงสร้างไว้เมื่อครั้งทรงผนวช ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก จัดเป็นพระประจำวันเสาร์ ลักษณะเด่นชัด คือ นั่งขัดสมาธิราบ (โยคะสนะ) พระชงฆ์ขวาทับซ้าย เป็นท่านั่งที่สำรวมอิริยาบท หงายพระหัตถ์วางซ้อนกันบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางทับบนพระหัตถ์ซ้าย มีพญานาคแผ่พังพาน ๗ เศียร ตามพุทธประวัติว่าด้วยเหตุการณ์หลังตรัสรู้ใหม่ๆ พระภูมีพระภาคเจ้าประทับเสวยวิมุติสุข ณ โคนต้นจิก ๗ วัน ได้เกิดเมฆใหญู่ผิดฤดูกาล มีฝนตกพรำ เจือด้วยลมหนาวตลอด ๗ วัน พญานาคชื่อมุจลินท์ มาวงด้วยขนดรอบพระผู้มีพระภาค ๗ รอบ เพื่อป้องกันความหนาวร้อน เหลือบยุง
|